เกาหลีใต้ประกาศร่วมมือกับอินโดนีเซียในฐานะประเทศคู่ค้าที่สำคัญด้านรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

นายชางยัง ลี (Mr. Chang-yang Lee) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน (MOTIE) และนายแดจิน จอง (Mr. Dae-jin Jeong) Deputy Trade Minister (รองปลัดกระทรวงด้านการค้า) สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับ นาย Edi Prio Pambudi Deputy Minister for Coordination of International Economic Cooperation สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นประธานร่วมในการประชุม 2nd Indonesia-Korea Joint Committee on Economic Cooperation ณ โรงแรม Lotte Hotel กรุงโซล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ

 

ผลการประชุม ทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่า เกาหลีและอินโดนีเซียในฐานะประเทศคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นเวลา 50 ปีนับตั้งแต่ความสัมพันธ์ทางการทูต และถึงเวลาที่จะแสวงหามาตรการความร่วมมือใหม่ๆ ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันในอีก 50 ปีข้างหน้า โดยแนวทางความร่วมมือจากผลการหารือในคราวนี้ สามารถแบ่งได้ 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ การค้าและการลงทุน อุตสาหกรรม ทรัพยากรพลังงาน และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีหัวข้อย่อย เช่น ความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ความร่วมมือด้านการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ การสนับสนุนการนำเข้ามะม่วงจากอินโดนีเซีย ความร่วมมือเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ ความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานของทรัพยากร ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางของอินโดนีเซียเข้าสู่ E-commerce ของเกาหลี เป็นต้น

 

สาระสำคัญจากการประชุม ทั้งสองประเทศตกลงที่จะร่วมลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) และแบตเตอรี่ในอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก รวมถึงขยายการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุหลักที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ เช่น นิเกิล ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะขยายขอบเขตของความร่วมมือ เพื่อที่จะเกิดการหมุนเวียนการลงทุนสำหรับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ และร่วมมือกันในการตั้งโรงงาน Powertrain สำหรับรถจักรยานยนต์ 2 ล้อไฟฟ้า เนื่องจากคาดว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดสองล้อของอินโดนีเซียจะขยายตัวอย่างมากในอนาคต

 

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการเป็นกลางทางคาร์บอนหรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon neutrality) ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ เช่น การผลิตไฮโดรเจนสีเขียวและการก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงส่งเสริมโครงการร่วมลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ และจะเพิ่มความสัมพันธ์ในด้านของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMRs) อนึ่ง ทั้งสองประเทศตกลงที่จะร่วมมือในโครงการ ODA (Official Development Assistance) ในด้านอุตสาหกรรม พลังงาน และมาตรฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรในอุตสาหกรรม Ppuri (root) industry หรืออุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนประกอบที่มีการใช้เทคโนโลยีควบคู่เพื่อพัฒนาคุณภาพ การบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และการเพิ่มศักยภาพของมาตรวิทยาเชิงกฎหมาย

 

ในการหารือดังกล่าว ได้มีการหยิบยกประเด็นการเปิดตลาดการนำเข้ามะม่วงจากอินโดนีเซีย ซึ่งกระทรวงเกษตร อาหารและกิจการชนบทของเกาหลีใต้ ได้รับคำร้องจากรัฐบาลอินโดนีเซียมาเป็นเวลาหลายปี ให้ดำเนินการหาข้อสรุปสำหรับกระบวนการกักกัน (Quarantine procedures) สำหรับการส่งออกมะม่วงมายังเกาหลีใต้ เพื่อที่อินโดนีเซียจะได้สามารถส่งออกมะม่วงมายังเกาหลีใต้ได้

 

เกาหลีใต้ประกาศร่วมมือกับอินโดนีเซียในฐานะประเทศคู่ค้าที่สำคัญด้านรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

เกาหลีใต้ประกาศร่วมมือกับอินโดนีเซียในฐานะประเทศคู่ค้าที่สำคัญด้านรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

 

******************************

สำนักงานผู้แทนการค้า ณ เมืองปูซาน

首尔海外贸易促进办公室

2 สิงหาคม 2566

ที่มาข้อมูล:

(1) www.motie.go.kr/motie/ne/presse/press2/bbs/bbsView.do?bbs

zh_CNChinese