แนวโน้มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ จากงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง imm Cologne ประเทศเยอรมนี

ช่วงต้นปี 2024 มีการจัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายใน ณ ประเทศเยอรมนี โดยในงานได้จัดแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ นวัตกรรมและแนวโน้มในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง ธีมหลักในงานครั้งนี้คือ “ชุมชนที่เชื่อมโยงถึงกัน” พร้อมกันนั้น งานแสดงสินค้าครั้งนี้ยังเป็นจุดนัดพบสำหรับผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งจากชาติต่างๆทั่วโลกด้วย

งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ imm Cologne จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 14 – 18 มกราคม 2024 ภายใต้แนวคิด “The Circles” นาย Matthias Pollmann หัวหน้าฝ่ายการจัดการงานแสดงสินค้าของ Koelnmesse กล่าวว่า imm Cologne คือศูนย์กลางจุดนัดพบสำหรับนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัยและการข้ามผ่านขอบเขตระหว่างศิลปะและการออกแบบ ด้วยผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าจากนานาชาติและรูปแบบการจัดงานแบบใหม่ภายใต้แนวคิด The Circles ที่ผสมผสานรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าแบบดั้งเดิมกับพื้นที่สำหรับการพบปะ แลกเปลี่ยนแนวคิด เพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง จึงทำให้งานแสดงสินค้า ณ เมืองโคโลญ ครั้งนี้ กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาอีกครั้ง แนวโน้มในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งจากงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ imm Cologne มีดังนี้

1. นิยามใหม่ของความยืดหยุ่น

ในงานแสดงสินค้า imm Cologne 2024 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมการแต่งบ้าน ขอบเขตและพื้นที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมกำลังหายไป บ้านกำลังถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ และไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังถูกแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นพื้นที่ทำงานด้วย ห้องน้ำก็ถูกทำให้กลายเป็นสปาส่วนตัว ห้องครัวจะกลายเป็นสวนในร่ม ที่มีสีเขียวชะอุ่ม และเป็นส่วนเติมเต็มให้กับห้องนั่งเล่น ผู้ประกอบการจำนวนมากที่ร่วมแสดงสินค้าครั้งนี้ นำเสนอนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาต่างๆในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์สำหรับห้องนั่งเล่นและห้องทำงาน โซฟาทนแดดและทนฝน สำหรับใช้ในร่มและกลางแจ้ง พร้อมทั้งมีการนำเสนอแนวคิดการตกแต่งแบบโมดูลาร์ที่เน้นความยืดหยุ่น สำหรับพื้นที่การใช้งานและงบประมาณที่จำกัด

2. ความสวยงามแบบยั่งยืน

การอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนยังคงเป็นประเด็นหลักของงานแสดงสินค้า imm Cologne ครั้งนี้ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งจึงต้องวางแผนและผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่คงทนขึ้น ในงานมีการนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ และโซฟาที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และสามารถนำมาแปลงสภาพและกลับสู่ท้องตลาดได้อีกครั้ง การมีซึ่งใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและผู้บริโภคได้ตระหนักถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแค่การคำนึงถึงปัจจัยทางนิเวศวิทยาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขด้วย

3. ธรรมชาติคือแรงบันดาลใจ

ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม่เพียงแค่หลักความยั่งยืน การหมุนเวียน และอายุการใช้งานที่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสีและรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ด้วย โทนสีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ โทนสีธรรมชาติ เช่น สีเขียวหรือสีเอิร์ธโทน การผสมผสานระหว่างวัสดุจากธรรมชาติ หรือวัสดุที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และการใช้สีเขียวอย่างลงตัว จะทำให้เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งมีความเป็นธรรมชาติและดูสดชื่นยิ่งขึ้น

4. ความปลอดภัยอย่างแท้จริง

ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน ทำให้ถวิลหาถึงความปลอดภัยมากขึ้น การออกแบบที่เรียบง่ายจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เทรนด์การออกแบบและตกแต่งในปัจจุบันจึงเน้นไปที่วัสดุ รูปทรง และเนื้อสัมผัสน่าดึงดูดใจมากกว่า วัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น ไม้ หนัง และหินธรรมชาติ

5. การกลับไปสู่ความเรียบง่าย

การกลับไปสู่ความเรียบง่าย สะท้อนออกมาสู่การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โต๊ะ และโซฟา ที่มีขนาดกะทัดรัดและการออกแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความสง่างาม ทำให้ง่ายต่อการจัดวางและเหมาะกับทุกมุมของตัวบ้าน การออกแบบโดยเน้นความเรียบง่ายนี้ ไม่เพียงประหยัดเนื้อที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาอีกด้วย นอกจากนี้ ถ้าคิดเชิงบวกก็คือการประหยัดทรัพยากรโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ

6. โลกแห่งการอยู่อาศัยแบบมีชีวิตชีวา

ตรงกันข้ามกับความเรียบง่าย และสีเอิร์ธโทนที่ดูเป็นธรรมชาติ มีอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง คือ เทรนด์สีสดใส บรรยากาศแห่งความสุขและมีชีวิตชีวา ควรถูกแต่งแต้มบนผนังทั้งสี่ด้านของห้องพักอาศัย เฉดสีที่มาแรง คือ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เก้าอี้นวมและโซฟา ที่มีสีสันสะดุดตา จะขับเน้นความพิเศษเฉพาะตัวของเฟอร์นิเจอร์ออกมา เทรนด์การออกแบบเน้นสีสดใสร่าเริงนี้ จะทำให้บรรยากาศภายในห้องสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

ที่มา: highlight-web.de

zh_CNChinese