สมาคมธนาคารเช็ก (Czech Banking Association: CBA) ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กจากร้อยละ 1.2 เป็นร้อยละ 1.4 ในปี 2567 และคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อเป็นอีกตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ CBA พิจารณา โดย CBA คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือร้อยละ 2.3 ในปีนี้ และจะยังคงเท่าเดิมในปีต่อไป ซึ่งเป็นการลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากประมาณการในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ของ CBA ที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.7 ในปีนี้
ข้อมูลการคาดการณ์ในปัจจุบันของธนาคารแห่งชาติเช็ก (Czech National Bank’s: CNB) สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 1.4 ซึ่งเป็นการสนับสนุนตัวเลขการคาดการณ์ของ CBA โดยการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจดังกล่าว เป็นผลมาจากแนวโน้มอุปสงค์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย กล่าวโดยนักวิเคราะห์ของ CBA Jakub Seidler
ในด้านนโยบายการเงิน สมาคมธนาคารเช็กคาดว่าธนาคารแห่งชาติเช็กจะยังคงลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จนถึงสิ้นปี โดยอัตราดอกเบี้ยจะลดลงเหลือร้อยละ 4 จากปัจจุบันร้อยละ 5.25 ประกอบกับ CBA ได้ปรับการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเช็กคราวน์ซึ่งคาดว่าจะอ่อนค่าลง โดยมูลค่าเฉลี่ยของสกุลเงินเช็กคราวน์ในปีนี้ควรอยู่เหนือเกณฑ์ที่ 25 เช็กคราวน์ ต่อยูโร ในช่วงสิ้นปี แต่ CBA ได้ปรับการคาดการณ์ลงในอัตราประมาณ 24.8 เช็กคราวน์ ต่อยูโร
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจเช็กยังคงเปราะบาง เนื่องจากพึ่งพิงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เยอรมนีและจีนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สำหรับการบริโภคภาคครัวเรือนของสาธารณรัฐเช็กที่ลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มเติบโตอีกครั้งในปีนี้ จากอุปสงค์ในประเทศ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เนื่องจาก CBA คาดว่าค่าจ้างที่แท้จริง จะเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 4
จากข้อมูลที่กล่าวข้างต้นส่งผลให้ผู้บริโภคชาวเช็กกลับมามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเห็นได้จากยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมีนาคม 2567 จากข้อมูลสำนักงานสถิติเช็ก (Czech Statistical Office: CSÚ) ยอดค้าปลีกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
สำนักงานสถิติเช็ก รายงานว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นในร้านค้าหลักๆ ทั้งสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและอาหารนั้น สินค้าที่ไม่ใช่อาหาร นักสถิติรายงานว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวอย่างเช่น ยอดขายในร้านค้าเฉพาะที่มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 4 ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและรองเท้าเติบโตขึ้น ร้อยละ 5.2 ยอดขายในร้านขายอาหารเพิ่มขึ้นคงที่ร้อยละ 4 ในขณะที่ยอดขายเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 ธุรกิจออนไลน์และการสั่งซื้อทางไปรษณีย์มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 15
การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้รับการยืนยันโดย Tomáš Volf นักวิเคราะห์ของ Citfin ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า “แม้ว่าชาวเช็กก็เริ่มใช้จ่ายมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ดีมาก” แต่อย่างไรก็ตาม เขายังชี้ให้เห็นว่ายอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ลดลงกว่าร้อยละ 9.5 ดังนั้นการเปรียบเทียบที่ต่ำจึงส่งผลให้ตัวเลขเป็นบวกในปีนี้ เช่นเดียวกับ Petr Dufek หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Creditas Bank กล่าวไว้ว่าตัวเลขดังกล่าวเกินความคาดหมาย เขายังชี้ไปที่ฐานการเปรียบเทียบที่ต่ำจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับ “ปีนี้อีสเตอร์มาเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ดังนั้นการเตรียมตัวสำหรับวันหยุดนี้จึงอาจมีส่วนส่งเสริมให้ตัวเลขในเดือนมีนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น”
จากข้อมูลที่กล่าวข้างต้นสามารถสรุปได้ว่าความต้องการจับจ่ายซื้อสินค้าของชาวเช็กกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก 2 ปีของภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง ทำให้กำลังซื้อลดลง โดยคาดว่าในปีนี้ สถานการณ์จะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคภาคครัวเรือนน่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจในปีนี้
ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.
ปี 2566 สาธารณรัฐเช็ก นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 237,563 ล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศเยอรมนี จีน โปแลนด์ สโลวาเกีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ฮังการี ฝรั่งเศส และเบลเยียม ตามลำดับ โดยนำเข้าจากประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 1,159 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่กล่าวข้างต้น จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายการส่งออกสินค้ามายังตลาดสาธารณรัฐเช็กเพิ่มเติม โดยผู้ประกอบการควรติดตามแนวโน้มตลาดที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และอาจพิจารณาสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องต้นทุน และการกำหนดราคาสินค้าที่น่าดึงดูดใจ เพื่อให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เน้นเรื่องราคาเป็นสำคัญ