รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี

ภาพรวมเศรษฐกิจ 

• เศรษฐกิจของชิลีประจำเดือนสิงหาคม 2567 ในภาพรวม GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 2.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันชาติของชิลี ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมปรับตัวดีขึ้นถึง 12.9% บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังคงหดตัวต่อเนื่อง อัตราว่างงานและอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบปีที่ 8.9% และ 4.7% ตามลำดับ การนำเข้าลดลง -3.6% ในขณะที่ตัวเลขการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.8% โดยมีทองแดงเป็นสินค้าส่งออกหลัก ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2567 ชิลีส่งออกทองแดงรวมมูลค่ากว่า 32,964 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
• ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละด้านประจำเดือนสิงหาคม 2567 สคต. ณ กรุงซันติอาโก ขอสรุปรายละเอียด ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี )

การบริโภคภาคเอกชนของชิลีประจำเดือนสิงหาคม 2567  ในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นที่ 12.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในเดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงใกล้เทศกาล    วันชาติ ชาวชิลีและธุรกิจต่าง ๆ นิยมซื้อสินค้าเตรียมไว้ล่วงหน้า  โดยสินค้าในหมวดอาหารปรับเพิ่มขึ้นจาก -2.5% มาอยู่ที่ 5% หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบปรับเพิ่มขึ้นจาก -4.8% มาอยู่ที่ 7% และในช่วงเทศกาลฯ ชาวชิลีนิยมแต่งกายด้วยชุดประจำชาติซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สินค้าในหมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.2% มาอยู่ที่ 15.5% นอกจากนี้ หมวดสินค้าเบ็ดเตล็ด (แก้วน้ำพลาสติก กระดาษทิชชู่ อุปกรณ์ทำอาหาร ของตกแต่ง) ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันจาก 0.2% มาอยู่ที่ 7.2% ส่วนหมวดสินค้าคงทน ปรับตัวลดลงจาก 7.1% มาอยู่ที่ 5.4%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคม 2567  ปรับระดับเพิ่มขึ้น 3.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากระดับ 39.5 มาอยู่ที่ 41.0

2. การลงทุน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://www.bcentral.cl/)

บรรยากาศการลงทุนในภาครัฐและเอกชนของชิลีประจำเดือนสิงหาคม 2567 ในภาพรวมยังคงซบเซา โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สะท้อนจากตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง (คิดเป็นตารางเมตร) จาก 0.9 ล้านตารางเมตร มาอยู่ที่ 0.5 ล้านตารางเมตร ลดลง -47.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปริมาณการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในการก่อสร้างลดลง   -30.2% ทั้งนี้ จากการตกแต่งสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานวันชาติของภาครัฐและเอกชน เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปริมาณการจำหน่ายสินค้าวัสดุและอุปกรณ์ในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3.4%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมประจำเดือนสิงหาคม 2567 มีการปรับระดับเพิ่มขึ้นจากระดับ 43.2 มาอยู่ที่ 46.1 เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจเหมืองแร่มีดัชนีความเชื่อมั่นสูงที่สุดที่ 64.3 ตามด้วยภาคการค้าที่ 49.6 ส่วนภาคธุรกิจการก่อสร้างมีดัชนีความเชื่อมั่นต่ำที่สุดที่ 24.6

3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://si3.bcentral.cl และสำนักงานสถิติแห่งชาติของชิลี https://www.ine.gob.cl)

อัตราการว่างงานของประเทศชิลีในเดือนสิงหาคม 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในปีนี้ ที่ 8.9% ของจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งหมดในประเทศ หากพิจารณาแยกตามเขตการปกครอง แคว้นที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือ แคว้นนูบเล ที่ 11.3% และแคว้นที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดคือ แคว้นไอเซน ที่ 4.2%

อัตราเงินเฟ้อของประเทศชิลีในเดือนสิงหาคม 2567 ปรับเพิ่มขึ้น     มาอยู่ที่ระดับสูงที่สุดในปีนี้ที่ 4.7% โดยสินค้า 3 หมวดแรกที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนนี้ ได้แก่ (1) หมวดที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (2) หมวดร้านอาหารและโรงแรม และ (3) หมวดการศึกษา โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 6.7%, 6.0% และ 5.8% ตามลำดับ

4. การส่งออก-นำเข้า (ข้อมูลจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของชิลี SUBREI – www.subrei.gob.cl)

การส่งออกสินค้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2567          มีมูลค่ารวมที่ 66,301 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.8%  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่

การนำเข้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2567 มีมูลค่ารวมที่ 51,336 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -3.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่

จากตัวเลขการส่งออกของชิลีที่สูงกว่าตัวเลขการนำเข้า  ทำให้ชิลีได้ดุลการค้า จำนวน 14,965 ล้านเหรียญสหรัฐ

5. การค้าของชิลีกับไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน (ข้อมูลสถิติทางการค้าจาก Global Trade Atlas)

ชิลีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม   ถึงเดือนสิงหาคม 2567 มูลค่ารวม 352.29 ล้านเหรียญสหรัฐ  (ลดลง -5.40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)  ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• รถยนต์และส่วนประกอบ (88 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -0.02%)
• เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (70.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -7.04%)
• เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.01%)
• ปลากระป๋อง (24.93 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -36.73%)
• ไข่มุกและอัญมณี (29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.69%)

สำหรับตัวเลขการนำเข้าของชิลีจากกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีนำเข้าจากเวียดนาม 787.29 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 1.67%)
• ชิลีนำเข้าจากไทย 352.29 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -5.40%)
• ชิลีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 249.00 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 25.47%)
• ชิลีนำเข้าจากมาเลเซีย 130.87 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 14.70%)
• ชิลีนำเข้าจากสิงคโปร์ 64.19 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 23.16%)

ชิลีส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคม 2567 มูลค่ารวม 451.41 ล้านเหรียญสหรัฐ  (เพิ่มขึ้น 3.95% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)  ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• ทองแดง (23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.33%)
• เยื่อกระดาษ (64 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 59.40%)
• แซลมอนและอาหารทะเล (73 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -24.91%)
• สินแร่อื่น ๆ (33.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -1.50%)
• ผลไม้และผลิตภัณฑ์ธัญพืช (9.84 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -55%)

สำหรับตัวเลขการส่งออกของชิลีไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีส่งออกไปยังไทย 451.41 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 3.95%)
• ชิลีส่งออกไปยังเวียดนาม 203.87 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -13.66%)
• ชิลีส่งออกไปยังฟิลิปินส์ 177.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 343.70%)
• ชิลีส่งออกไปยังมาเลเซีย 142.62 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -39.44%)
• ชิลีส่งออกไปยังสิงคโปร์ 83.55 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 80.47%)

มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-ชิลี ระหว่างเดือนมกราคม – เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 803.70 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -0.36%)  โดยชิลีส่งออกสินค้าไปยังไทยมากกว่านำเข้าจากไทย ทำให้ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าที่ 99.12 ล้านเหรียญสหรัฐ

圣地亚哥国际贸易促进办公室

ตุลาคม 2567