งานแสดงสินค้าอาหาร CIBUS ณ เมืองปาร์มา (เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น Food Valley ของอิตาลี) ถือเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่สำคัญอันดับต้นในอิตาลีและมีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยนับเป็นงานแสดงสินค้าอาหาร Made in Italy โดยเฉพาะสินค้า PDO และ PGI ที่มีความสำคัญมากที่สุดในระดับชาติ โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอศักยภาพอุตสาหกรรมและความเป็นเลิศของอาหารอิตาเลียนซึ่งมีความหลากหลาย และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบปะเจรจาการค้าและเลือกซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ ในระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ โดยผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันต่างๆ ให้ความสำคัญกับงานดังกล่าวเป็นอย่างมาก อาทิ Food service (ร้านอาหาร catering โรงแรม และบาร์) Trade (ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก) Professional (เชฟ) Large-scale distributor (ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต Cash & Carry) ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สื่อมวลชนด้านอาหาร สมาคมและสถาบันต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน เห็นโอกาสในการสร้างการรับรู้สินค้าอาหารไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน และธุรกิจบริการร้านอาหารไทยในอิตาลี จึงได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร CIBUS 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้า Fiere di Parma เมืองปาร์มา เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารไทย สินค้า/ผลิตภัณฑ์อาหารไทย ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และร้านอาหาร Thai SELECT ในอิตาลีและในประเทศเขตอาณา ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหารและให้ลองชิมอาหารไทยภายในคูหา เพื่อสร้างการรับรู้และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้บริโภคในอิตาลี และผู้เยี่ยมชมจากทั่วโลก ได้รู้จักสินค้าอาหารไทย ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางในการช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารไทยให้ขยายตัวในตลาดอิตาลีเพิ่มมากขึ้น
การเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน CIBUS 2024 ครั้งนี้ ถือเป็นการเข้าร่วมงานครั้งแรกของไทย (นอกเหนือจากไทย ยังมีประเทศในแถบเอเชียที่เข้าร่วม ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย) ซึ่งคูหาไทยตั้งอยู่ในอาคาร 8 (Local, Regional และ International) เลขที่ H018 ขนาด 36 ตารางเมตร โดยตำแหน่งคูหาไทยตั้งอยู่บนทางเดินเข้า-ออกหลักของอาคาร และรายล้อมด้วยคูหาอิตาเลียนขนาดใหญ่ มีการนำสินค้าอาหาร และผลิตภัณฑ์อาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT หลายรายการมาจัดแสดง เช่น กะทิกล่อง/กระป๋อง มาม่า เครื่องดื่มผลไม้ ซอสปรุงรสต่าง ๆ ข้าวหอมมะลิ เครื่องปรุงรส น้ำพริกแกง น้ำมะพร้าวสด เบียร์ เป็นต้น รวมถึงยังมีการแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ cookbook เมนูอาหารไทยที่หลากหลาย และรายชื่อร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในอิตาลีและประเทศในเขตอาณา นอกจากนี้ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงโรม ได้ร่วมสนับสนุนสินค้าเกษตร อาทิ แก้วมังกร น้ำมะพร้าว พร้อมชุด meal kit ผัดไทย และนำเอกสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ มาจัดแสดงร่วมกัน ถือเป็นการบูรณาการงานร่วมกันของทีมประเทศไทยในอิตาลี เพื่อร่วมส่งเสริมสินค้าอาหารไทย
ตลอดระยะเวลา 4 วัน ของการจัดงาน คูหาไทยได้รับความสนใจจากผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้จัดจำหน่าย ธุรกิจร้านอาหาร นักศึกษาด้านอาหาร ผู้บริโภคท้องถิ่น จำนวนมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาเลียน คิดเป็นสัดส่วน 80% และชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ คอซอวอ อินโดนีเซีย อินเดีย สเปน แอลบาเนีย บาห์เรน นอร์เวีย ดูไบ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมคูหาไทยเป็นอย่างมาก ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ น้ำมะพร้าวกระป๋อง น้ำมะพร้าวสด ข้าวหอมมะลิ และชุด meal kit ผัดไทย จากการสอบถามลูกค้าต่าง ๆ พบว่า ลูกค้าในอิตาลีส่วนใหญ่ (ร้านค้าปลีก ร้านอาหารเอเชีย ร้านอาหารอิตาเลียน) เลือกซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากผู้นำเข้าในอิตาลี เนื่องจากปริมาณการซื้อไม่มากนัก และต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการนำเข้า และข้อจำกัดของพื้นที่เก็บสินค้า แต่ก็พบว่ามีลูกค้าบางส่วนสนใจที่จะนำเข้าจากผู้ส่งออกไทยโดยตรง เพื่อลดต้นทุนของราคาสินค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดอิตาลี/ยุโรป
นอกจากนี้ มีเชฟจากร้านอาหารอิตาเลียน ร้านอาหารต่างชาติในอิตาลี สนใจสอบถามเกี่ยวกับเครื่องปรุงอาหารไทยจำนวนมาก โดยมองหาเครื่องปรุงของไทยสำหรับนำเสนอเมนูอาหารไทยในร้านอาหาร ได้แก่ ซอสผัดไทย ซอสหอยนางรม เป็นต้น รวมถึงมีผู้แทนจาก TasteAtlas (บริษัทจัดอันดับรายการอาหารทั่วโลกที่ได้รับความนิยม) ให้ความสนใจแวะชมคูหาไทย และมองหาความร่วมมือกับประเทศไทย ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Thai SELECT ผ่านช่องทาง “TasteAtlas” อีกด้วย
นอกจากนี้ มีผู้สนใจสอบถามรายละเอียดงานแสดงสินค้า THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 โดยการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยในครั้งนี้ สคต. ณ เมืองมิลาน คาดว่าจะเกิดการเจรจาการค้าระหว่างนักธุรกิจอิตาเลียน/นักธุรกิจต่างชาติและผู้ประกอบการไทยเพิ่มขึ้น
ระหว่างงานมีการจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทยภายในคูหา (วันที่ 7-9 พฤษภาคม 2567) ตั้งแต่เวลา 12.30 น. -14.00 น. (โดยเชฟคนไทย คุณปานจรี บุญช่วย) เพื่อสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในอิตาลี โดยได้สาธิตการทำเมนูอาหารไทยที่หลากหลาย ได้แก่ ผัดกะเพราเนื้อ แกงมัสมั่นไก่ ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน และผัดไทย โดยทุกเมนูเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งการสาธิตการทำอาหารไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้แวะชมการสาธิตการทำอาหารไทยเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีโอกาสได้ทดลองชิมอาหารไทย ซึ่งส่วนใหญ่เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่มีการสาธิตและให้ชิมอาหารไทยภายในงาน โดยส่วนใหญ่รู้จักและชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก และมีโอกาสในการรับประทานอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันวัตถุดิบ เครื่องปรุงอาหารไทยมีวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นในร้านค้าเอเชียและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในอิตาลี รวมถึงมีจำนวนร้านอาหารไทยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าอาหารไทยมีเอกลักษณ์ มีความแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคระดับนานาชาติอย่างกว้างขวาง ดังนั้น อาหารไทยควรใช้จุดแข็งดังกล่าวในการเข้ามาเจาะตลาดอาหารอิตาลี เหมือนอาหารญี่ปุ่น และอาหารจีน ที่ได้กลายเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคท้องถิ่นในอิตาลีไปแล้ว
ความคิดเห็นของ สคต. ณ เมืองมิลาน
1. อิตาลีถือเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมด้านอาหารที่แข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้อาหารต่างชาติที่ต้องการเจาะตลาดอาหารในอิตาลีเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร CIBUS 2024 (มีจำนวนผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 3,000 บริษัท และมีผู้เข้าชมงานกว่า 75,000 ราย +25% เทียบกับงานปี 2565) เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารไทย สินค้าอาหารไทย ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และร้านอาหาร Thai SELECT ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหาร ถือเป็นหนึ่งในนโยบาย Soft Power ที่สำคัญ ที่จะช่วยสร้างการรับรู้และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้บริโภคในอิตาลี และผู้เยี่ยมชมจากทั่วโลกได้รู้จักสินค้าอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ ในการใช้งานดังกล่าวเพื่อแนะนำสินค้าอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักต่อผู้บริโภคในอิตาลีและผู้เยี่ยมชมจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงผู้ประกอบการไทยยังสามารถศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคและสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการ แลกเปลี่ยนแนวคิดและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมอาหารกับผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้ารายอื่นๆ โดยการจัดงานในครั้งนี้ ยังช่วยตอกย้ำการขับเคลื่อนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก (Kitchen to the World) ให้สอดแทรกไปในทุกพื้นที่ เพื่อยืนยันบทบาทของประเทศไทยที่พร้อมจะเป็นครัวของโลก ตอบโจทย์เรื่องความมั่นคงทางอาหาร (food security) และความยั่งยืน (Sustainability) ที่เป็นแนวโน้มสำคัญของโลกในขณะนี้
2. ในปี 2567 (มกราคม – มีนาคม) ไทยส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมายังอิตาลี ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มูลค่า 12.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+112.37%) สิ่งปรุงรสอาหาร มูลค่า 1.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+42.66%) เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 2.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+232.89%) ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าโอกาสของการขยายการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยมายังอิตาลียังคงมีแนวโน้มที่สดใส นอกจากนี้ การจัดงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 (ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567) มีผู้นำเข้าในอิตาลีรายสำคัญ ๆ หลายราย เตรียมพร้อมเดินทางเข้าร่วมเจรจาการค้าในงานดังกล่าว โดยต้องการขยายการนำเข้าสินค้าอาหารและเครื่องดื่มรายการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น และธุรกิจบริการร้านอาหารต่าง ๆ ในอิตาลีที่เพิ่มขึ้น