ข้าวหอมทุ่งกุลาฯจ่อเข้าร้านค้ายูเอ็นที่เวียนนา ขยายผลทวงคืนตลาดตามยุทธศาสตร์เวียนนาโมเดล

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา รายงานความคืบหน้าสำคัญของการผลักดันการนำข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นสินค้าจีไอยุโรปตัวแรกของไทย ไปวางจำหน่ายในร้านค้าของสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (The United Nations Commissary) ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสองปี ล่าสุดสามารถผลักดันการจับคู่และเจรจาธุรกิจจนเกิดผลสำเร็จได้รับคำสั่งซื้อจาก Commissary โดยคาดว่าจะมีการวางจำหน่ายสินค้าได้ตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เป็นต้นไป นับเป็นส่วนหนึ่งของการขยายผลความสำเร็จของการทวงคืนตลาดตามแผนยุทธศาสตร์เวียนนาโมเดล ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565

 

ยุทธศาสตร์เวียนนาโมเดลของ สคต. ณ กรุงเวียนนา มุ่งทวงคืนตลาดข้าวไทยและพัฒนาให้เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมการค้าและการยกระดับภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศเพื่อจำหน่ายในฐานะสินค้าพรีเมี่ยมที่อยู่เหนือการแข่งขันทางราคากับสินค้าคู่แข่ง ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จจากการส่งออกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (สินค้าจีไอยุโรป) มายังสหภาพยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศออสเตรียเมื่อปี 2565 ซึ่งเมื่อสินค้าล็อตแรกมาถึงผู้นำเข้าได้ทำการสั่งซื้อสินค้าล็อตต่อไปในทันทีที่ได้เปิดสัมผัสคุณภาพของสินค้าจริง เนื่องจากมั่นใจในกระแสตอบรับที่จะเกิดขึ้น ปัจจุบันสามารถผลักดันการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยเข้าไปยังตลาดออสเตรียได้ครบทุก market segments แล้ว ได้แก่ (1) ร้านอาหาร Thai SELECT (2) Hypermarket (3) Supermarket (4) Ethic market (5) Online market และล่าสุดที่กำลังจะมีการวางจำหน่ายสินค้าที่ (6) ร้านค้า Commissary ในองค์การสหประชาชาติ

 

เวียนนาโมเดลนอกจากจะสามารถทวงคืนตลาดข้าวไทยแล้วยังเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับข้าวหอมมะลิไทยอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายในการโน้มน้าวผู้นำเข้าในประเทศออสเตรีย อาทิ การจัดเวิร์คชอปศึกษาข้อมูลเชิงลึกของข้าวหอมมะลิไทยและการพิสูจน์เปรียบเทียบคุณภาพของข้าวชนิดต่างๆ ในท้องตลาดโดยการปิดตาทดสอบ (Blind test) ให้กับบริษัทผู้นำเข้า การดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการค้าอย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความเชื่อมั่นต่อนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐ ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจและการติดตามประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความลงตัวของความต้องการและผลประโยชน์อันนำไปสู่การค้าจริงในที่สุด

 

อีกด้านหนึ่งคือการสร้างความต้องการของตลาดที่แข็งแกร่งไปพร้อมๆ กันเพื่อให้เกิดการบริโภคและการค้าที่ยั่งยืน โดยการวางให้ร้านอาหาร Thai SELECT ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นทูตข้าวหอมมะลิไทย และมีการมอบเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยของกรมการค้าต่างประเทศให้กับร้านอาหารไทยในกรุงเวียนนาเป็นที่แรกของโลก ทั้งนี้ เพื่อให้เครือข่ายร้านอาหารไทยเป็นช่องทางอันทรงประสิทธิภาพที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงที่สุดในการให้ความรู้ (Palate training) และส่งเสริมการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยในร้านอาหารและที่บ้าน ซึ่งประสบความสำเร็จดังคาด ผู้บริโภคชื่นชอบคุณภาพและติดใจรสสัมผัสของข้าวหอมมะลิไทยรวมทั้งสามารถแยกแยะความแตกต่างจากข้าวอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะคุณสมบัติพิเศษของข้าวหอมมะลิไทย เช่น ความหอม และความนุ่มหนึบ เป็นต้น ที่สำคัญ ผู้บริโภคมีการทักท้วงเมื่อสังเกตได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพข้าวที่ใช้ในการบริการในร้าน

 

นับจนถึงสิ้นปี 2566 มีการนำเข้าข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (จีไอ) ซึ่งเป็นผลจากการผลักดันของ สคต. ณ กรุงเวียนนา (ไม่รวมข้าวหอมมะลิไทยทั่วไป) ตรงมายังตลาดออสเตรียแล้วจำนวน 15 ตู้คอนเทนเนอร์ และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อไปอีก เป็นความสำเร็จในการทวงคืนตลาดข้าวหอมมะลิไทยจากคู่แข่ง หลังจากที่ตลาดออสเตรียถูกแย่งชิงจนปริมาณการนำเข้าข้าวไทยลดลงจนเกือบเหลือศูนย์ในช่วงก่อนหน้า ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตลาดออสเตรียยังส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งออกของไทยสามารถขยายการส่งออกไปยังตลาดอิสราเอลและตะวันออกกลาง และในปัจจุบัน สคต.เวียนนา กำลังขยายผลเวียนนาโมเดลไปยังตลาดสโลวีเนีย คาดว่าจะสามารถตกลงการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปยังสโลวีเนียได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 นี้

 

ออสเตรียจัดอยู่ในกลุ่มประเทศขนาดเล็กแต่ทรงพลัง ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง มีความเป็นสากล เปิดกว้างต่อโลกภายนอก นิยมสินค้าคุณภาพ มีความทันสมัย และใส่ใจต่อความยั่งยืน ที่สำคัญ เป็นประเทศที่มีศักยภาพระดับแนวหน้าในการเป็นผู้นำทางความคิดที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค (KOL) โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป และกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงในภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ กรุงเวียนนายังเป็นสังคมนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสำนักงานองค์การสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ออสเตรียจึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญจุดหนึ่งสำหรับการสร้างภาพลักษณ์ การสร้างเสริมและปลดปล่อยพลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทย เพื่อการสร้างผลประโยชน์ทางการค้าของไทยอย่างกว้างขวางในเวทีโลก

 

 

https://www.youtube.com/watch?v=7tIIVayvQqY

 

zh_CNChinese