澳大利亚
1.สถานการณ์เศรษฐกิจ
การเติบโตทางเศรษฐกิจออสเตรเลียไตรมาสเดือนมิถุนายน 2567 ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 (เป็นการขยายตัว 11 ไตรมาสติดต่อกันในอัตราที่ชะลอตัวลง) และมีการขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อปี การเติบโตของ GDP ต่อหัวไตรมาสเดือนมิถุนายนลดลงร้อยละ 0.4 (ลดลง 6 ไตรมาสติดต่อกัน) การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 0.2 (ลดการใช้จ่ายกิจกรรมสันทนาการและรับประทานอาหารนอกบ้านแต่ซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นเพิ่มขึ้น) การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 (จากการพัฒนาบริการด้านสวัสดิการสุขภาพในระดับภูมิภาค) และการลงทุนของภาคธุรกิจหดตัวลงร้อยละ 0.1 เป็นการลดลงของการลงทุนในภาคธุรกิจประเภทธุรกิจการเกษตรและธุรกิจค้าปลีก แต่การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ด้านการค้าออสเตรเลียค่อนข้างทรงตัว แม้ว่าการส่งออกภาคบริการออสเตรเลียจะเพี่มขึ้นร้อยละ 5.6 แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ถ่านหินและสินแร่โลหะ) ส่งออกลดลงร้อยละ 3 รายได้ประชาชาติสุทธิลดลงร้อยละ 0.9 อัตราการออมเงินภาคครัวเรือนทรงตัวที่ร้อยละ 0.6 ธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 4.35 (เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง) การเติบโตของค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.75 ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำอยู่ที่ 915.90 เหรียญออสเตรเลียต่อสัปดาห์หรือ 24.10 เหรียญออสเตรเลียต่อชั่วโมง เริ่ม 1 กรกฎาคม 2567 อัตราการว่างงานเดือนสิงหาคม 2567 ค่อนข้างทรงตัวที่ร้อยละ 4.2 (ดัชนีราคาผู้บริโภคอยู่ที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี)
2.สถานการณ์การค้าภาพรวมของออสเตรเลีย [1]
ปี 2567 เดือนมกราคม–กรกฎาคม สถานการณ์การส่งออกสินค้าของออสเตรเลีย มีมูลค่า 199,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 9.65) เป็นการส่งออกถ่านหินบิทูมินัส (ร้อยละ 33.42) สินแร่และหัวแร่เหล็ก (ร้อยละ 28.93) ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป (ร้อยละ 7.22) เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค (ร้อยละ 3.80) และข้าวสาลีและเมสลิน (ร้อยละ 2.81) ประเทศส่งออกหลัก คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และอินเดีย สำหรับประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 (น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ทองแดงบริสุทธิ์ อะลูมิเนียมที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป และเนื้อสัตว์สำหรับบริโภค)
ปี 2567 เดือนมกราคม–กรกฎาคม การนำเข้าสินค้าของออสเตรเลีย มีมูลค่า 164,321 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 3.49) โดยเป็นการนำเข้ารถยนต์สำหรับขนส่งบุคคลและขนส่งของ (ร้อยละ 15.42) เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (ร้อยละ 14.56) น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันดิบที่ได้จากแร่บิทูมินัส (ร้อยละ 13.99) เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือเครือข่ายไร้สายอื่นๆ (ร้อยละ 10.41) ยารักษาหรือป้องกันโรค (ร้อยละ 3.89) ประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไทย ปี 2567 เดือนมกราคม–กรกฎาคม ออสเตรเลียได้ดุลการค้า 35,529 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 มีมูลค่า 7,864 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 14.74) (สินค้านำเข้าหลักจากไทย 5 อันดับแรกได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ยางรถยนต์ใหม่ และทูน่ากระป๋อง) และ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 4,944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (173,074 ล้านบาท)
สถานการณ์การส่งออกสินค้าของออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคม 2567 มีมูลค่า 28,309 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 2.27) โดยเป็นผลมาจากการส่งออกถ่านหินบิทูมินัส (ร้อยละ 31.34) สินแร่และหัวแร่เหล็ก (ร้อยละ 26.56) ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป (ร้อยละ 7.89) เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค (ร้อยละ 4.63) และข้าวสาลีและเมสลิน (ร้อยละ 2.28) ประเทศส่งออกหลัก คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกาและ อินเดีย สำหรับประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 (น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ทองแดงบริสุทธิ์ อะลูมิเนียมที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปและ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค)
สำหรับการนำเข้าสินค้าของออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคม 2567 มีมูลค่า 25,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 10.07) โดยเป็นการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (ร้อยละ 15.05) รถยนต์สำหรับขนส่งบุคคลและขนส่งของ (ร้อยละ 14.76) น้ำมันปิโตรเลียมที่ได้จากแร่ บิทูมินัส (ดีเซล) (ร้อยละ 13.91) เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือสำหรับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ (ร้อยละ 10.47) ยารักษาหรือป้องกันโรค (ร้อยละ 3.64) ประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2567 ออสเตรเลียได้ดุลการค้าที่ 3,009 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 (รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องจักรสำหรับการรับการเปลี่ยนและการส่ง หรือการสร้างเสียง ภาพหรือข้อมูลอื่นๆ ยางรถยนต์ใหม่และทูน่ากระป๋อง)
3.สรุปสถานการณ์การค้าไทย-ออสเตรเลีย [2]
เป้าหมายส่งออก | มูลค่าการค้ารวม (ล้าน US$) | มูลค่าการส่งออก (ล้าน US$) | มูลค่าการนำเข้า (ล้าน US$) | |||||||
ปี 2023
(%) |
ปี 2024
(%) |
ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2023 | ปี 2024 | |||
ม.ค.-ก.ค. | +/- (%) | ม.ค.- ก.ค. | +/- (%) | ม.ค.- ก.ค. | +/- (%) | |||||
2.0
(8.21) |
1.0 | 19,054.43
(4.03) |
10,827.26 | -6.06 | 12,214.62 (8.21) | 7,234.23 | 10.07 | 6,839.82
(-4.05) |
3,593.03 | -27.46 |
[1] Source: Global Trade Atlas
[2] Source: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
4. การค้าของไทยเดือนกรกฎาคม ปี 2567
- การส่งออกสินค้าไทยไปออสเตรเลียเดือนกรกฎาคม ปี 2567 มีมูลค่า 1,003.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (35,126 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.45 เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าเครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว อาหารทะเลกระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป แต่การส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ลดลง
- การนำเข้าสินค้าของไทยจากออสเตรเลียเดือนกรกฎาคม ปี 2567 มีมูลค่า 509.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (17,820 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ27 เป็นการลดลงของการนำเข้าสินค้าน้ำมันดิบและพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช แต่การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะอื่นๆ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค นมและผลิตภัณฑ์นมน้ำมันสำเร็จรูป ถ่านหิน ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบเพิ่มขึ้น