แม้ว่ายอดขายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 แต่การขู่ขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์อาจส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเกิดความปั่นป่วนได้ รายงานฉบับใหม่จากสมาคมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค Consumer Technology Association (CTA) และบริษัท Trade Partnership Worldwide LLC (TPW) ระบุว่าภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีต่างประเทศมายังสหรัฐฯ นั้น อาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน
รายงานฉบับนี้ได้ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบนโยบายการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะส่งผลผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค 10 รายการ คือ แล็ปท็อปและแท็บเล็ต สมาร์ตโฟน เครื่องเล่นวิดีโอเกม คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ ลำโพงและหูฟัง โทรทัศน์ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน อุปกรณ์เชื่อมต่อ และอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ ผ่านการตั้งสมมติฐาน 2 กรณี
1. กรณีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 10 จากทั่วโลกและกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบคงที่เพิ่มเติมอีกร้อยละ 60 นอกเหนือจากอัตราภาษีเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีน หรือเรียกว่ากรณี 10%/70%
2. กรณีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 20 จากทั่วโลกและกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบคงที่เพิ่มเติมร้อยละ 100 สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีนทั้งหมด หรือเรียกว่ากรณี 20%/120%
จากการศึกษาของ Trade Partnership Worldwide LLC (TPW) นี้พบว่าการปรับขึ้นภาษีศุลกากรนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ 6 ใน 10 รายการที่ทำการศึกษา มีอัตราภาษีศุลกากรอยู่ที่ 0 หรือต่ำกว่าร้อยละ 1 ได้แก่ สมาร์ตโฟน วิดีโอเกม แล็ปท็อปและแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และหูฟัง ส่วนผลิตภัณฑ์อีก 3 รายการในการศึกษานี้ มีอัตราภาษีศุลกากรปัจจุบันต่ำกว่าร้อยละ 2 ได้แก่ อุปกรณ์เชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ ทีวี โดยมีเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเท่านั้นที่มีอัตราภาษีศุลกากรปัจจุบันที่ร้อยละ5
ทั้งนี้ ภายใต้อัตราภาษีศุลกากรที่ทรัมป์กำหนดใหม่ในกรณี 10%/70% จะทำให้อัตราภาษีศุลกากรพุ่งถึง 2 หลักและใน 5 กรณีจะสูงเกินร้อยละ 50 ซึ่งภาษีจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในผลิตภัณฑ์ที่จีนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่และมีทางเลือกในการจัดหาผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่ช่องทาง ตัวอย่างเช่น ในปี 2566 สหรัฐฯ นำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมจากจีนถึงร้อยละ 87 ของการนำเข้าทั้งหมด หรือในกรณีการนำเข้าจอมอนิเตอร์ของสหรัฐฯ มาจากจีนเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการนำเข้าทั้งหมด
จากการศึกษาในสมมุติฐานของกรณีการขึ้นภาษี 10%/70% คาดการณ์ว่าผลกระทบต่อผู้บริโภค ดังนี้
1. แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
ภาษีศุลกากรของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57.3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอยู่ที่ร้อยละ 0 และสหรัฐฯนำเข้าแล็ป-
ท็อปและแท็บเล็ตจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
การผลิตแล็ปท็อปและแท็บเล็ตภายในสหรัฐฯ เพื่อชดเชยการนำเข้าที่หายไปมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ราคาของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอาจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 หรือราคาแล็ปท็อปโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 357 เหรียญสหรัฐจากราคาขายปลีก และราคาแท็บเล็ตโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 201 เหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าเหล่านี้ลดลงร้อยละ 54.2 และผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อถึง 3.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยรวมแล้ว ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าผู้บริโภคต้องแบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
1. แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
ภาษีศุลกากรของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57.3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอยู่ที่ร้อยละ 0 และสหรัฐฯนำเข้าแล็ป-
ท็อปและแท็บเล็ตจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
การผลิตแล็ปท็อปและแท็บเล็ตภายในสหรัฐฯ เพื่อชดเชยการนำเข้าที่หายไปมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ราคาของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอาจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 หรือราคาแล็ปท็อปโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 357 เหรียญสหรัฐจากราคาขายปลีก และราคาแท็บเล็ตโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 201 เหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าเหล่านี้ลดลงร้อยละ 54.2 และผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อถึง 3.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยรวมแล้ว ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าผู้บริโภคต้องแบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
2. สมาร์ตโฟน
ภาษีนำเข้าของสมาร์ตโฟนจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57 และเช่นเดียวกันกับแล็ปท็อปและแท็บเล็ต ในปัจจุบันการนำเข้าสมาร์ตโฟนมายังสหรัฐฯ นั้นปลอดภาษี สหรัฐฯนำเข้าสมาร์ตโฟนมาจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าสมาร์ตโฟนทั้งหมด และการนำเข้าเหล่านี้อาจจะต้องเสียภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ถึงร้อยละ 70
ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 213 เหรียญสหรัฐ จากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน ผลจากภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้อโดยรวมลงร้อยละ 43.7 และสูญเสียอำนาจในการซื้อไป 2.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าของสมาร์ตโฟนจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57 และเช่นเดียวกันกับแล็ปท็อปและแท็บเล็ต ในปัจจุบันการนำเข้าสมาร์ตโฟนมายังสหรัฐฯ นั้นปลอดภาษี สหรัฐฯนำเข้าสมาร์ตโฟนมาจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าสมาร์ตโฟนทั้งหมด และการนำเข้าเหล่านี้อาจจะต้องเสียภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ถึงร้อยละ 70
ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 213 เหรียญสหรัฐ จากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน ผลจากภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้อโดยรวมลงร้อยละ 43.7 และสูญเสียอำนาจในการซื้อไป 2.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
3. อุปกรณ์เชื่อมต่อ
อุปกรณ์เชื่อมต่อ รวมไปถึงสินค้าที่ผู้บริโภคใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และเข้าถึงเว็บไซต์ เช่น เครื่องติดตามการออกกำลังกาย หูฟังบลูทูธไร้สาย นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ และลำโพงอัจฉริยะ เป็นต้น แม้ว่าการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อส่วนใหญ่จะปลอดภาษี แต่อัตราภาษีโดยเฉลี่ยในปัจจุบันจะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เนื่องมาจากภาษีนำเข้าตามมาตรา 301 สำหรับสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐฯจากจีน ข้อเสนอภาษีของทรัมป์จะเพิ่มอัตราภาษีเป็นร้อยละ 20.7 ทั้งนี้ สหรัฐฯ นำเข้าสินค้านี้จากจีนนั้นคิดเป็นร้อยละ 15 ของการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าที่มาจากจีนที่ร้อยละ 70 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น และการนำเข้าจากจีนจะลดลง ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ก็จะได้รับกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ราคาของอุปกรณ์เชื่อมต่อเหล่านี้เพิ่มขึ้นโดยรวมร้อยละ 10.2 และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อลงร้อยละ 18.1 ราคาที่สูงขึ้นของสินค้าที่ผู้บริโภคยังคงซื้อต่อไปทำให้กำลังซื้อของครัวเรือนลดลง 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อุปกรณ์เชื่อมต่อ รวมไปถึงสินค้าที่ผู้บริโภคใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และเข้าถึงเว็บไซต์ เช่น เครื่องติดตามการออกกำลังกาย หูฟังบลูทูธไร้สาย นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ และลำโพงอัจฉริยะ เป็นต้น แม้ว่าการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อส่วนใหญ่จะปลอดภาษี แต่อัตราภาษีโดยเฉลี่ยในปัจจุบันจะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เนื่องมาจากภาษีนำเข้าตามมาตรา 301 สำหรับสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐฯจากจีน ข้อเสนอภาษีของทรัมป์จะเพิ่มอัตราภาษีเป็นร้อยละ 20.7 ทั้งนี้ สหรัฐฯ นำเข้าสินค้านี้จากจีนนั้นคิดเป็นร้อยละ 15 ของการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าที่มาจากจีนที่ร้อยละ 70 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น และการนำเข้าจากจีนจะลดลง ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ก็จะได้รับกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ราคาของอุปกรณ์เชื่อมต่อเหล่านี้เพิ่มขึ้นโดยรวมร้อยละ 10.2 และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อลงร้อยละ 18.1 ราคาที่สูงขึ้นของสินค้าที่ผู้บริโภคยังคงซื้อต่อไปทำให้กำลังซื้อของครัวเรือนลดลง 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
4. เครื่องเล่นวิดีโอเกม
การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมมายังสหรัฐฯ ของทรัมป์จะทำให้ต้นทุนของเครื่องเล่นวิดีโอเกมสูงขึ้นอย่างมาก การนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษี แต่อาจจะมีการกำหนดภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 62.1 ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมจากจีนถึงร้อยละ 87
การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมมายังสหรัฐฯ ของทรัมป์จะทำให้ต้นทุนของเครื่องเล่นวิดีโอเกมสูงขึ้นอย่างมาก การนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษี แต่อาจจะมีการกำหนดภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 62.1 ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมจากจีนถึงร้อยละ 87
ตามข้อมูลของ TPW ราคาเครื่องเล่นวิดีโอเกมในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.9 หรือเพิ่มขึ้น 246 เหรียญสหรัฐจากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการซื้อเครื่องเล่นวิดีโอเกม และจะลดการซื้อโดยรวมลงร้อยละ 56.8 โดยรวมอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผู้บริโภคต้องแบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
5. อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์
สินค้าเทคโนโลยีประเภทนี้ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน แฟกซ์ คีย์บอร์ด เมาส์ แทร็กแพด ปากกาสไตลัส อุปกรณ์เชื่อมต่อUSB และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอัตราภาษีของสินค้าประเภทนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยการเพิ่มภาษีนำเข้านี้จะทำให้อัตราภาษีโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเป็นร้อยละ 23 ทั้งนี้ สหรัฐฯนำเข้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จากจีนร้อยละ 19 ของการนำเข้าสินค้าประเภทนี้ทั้งหมด ดังนั้นอัตราภาษีใหม่จะมีผลมากขึ้นกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.9 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 25.3 โดยในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะมีการผลิตเพิ่มเพียงร้อยละ 3.9
ราคาของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะลดการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ลงร้อยละ 22.8 เช่น ราคาเฉลี่ยของเครื่องพิมพ์อยู่ที่ 234 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาเครื่องพิมพ์สูงขึ้นถึง 25 เหรียญสหรัฐ ต้นทุนที่สูงขึ้นของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อลดลง 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การสูญเสียอำนาจในการซื้อดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปตราบที่ภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นยังคงมีผลบังคับใช้ แม้จะคำนึงถึงผลกำไรของผู้ผลิตและรายได้จากภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว การสูญเสียของผู้บริโภคก็ยังสูงมากจนทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้ถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้แบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
สินค้าเทคโนโลยีประเภทนี้ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน แฟกซ์ คีย์บอร์ด เมาส์ แทร็กแพด ปากกาสไตลัส อุปกรณ์เชื่อมต่อUSB และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอัตราภาษีของสินค้าประเภทนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยการเพิ่มภาษีนำเข้านี้จะทำให้อัตราภาษีโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเป็นร้อยละ 23 ทั้งนี้ สหรัฐฯนำเข้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จากจีนร้อยละ 19 ของการนำเข้าสินค้าประเภทนี้ทั้งหมด ดังนั้นอัตราภาษีใหม่จะมีผลมากขึ้นกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.9 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 25.3 โดยในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะมีการผลิตเพิ่มเพียงร้อยละ 3.9
ราคาของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะลดการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ลงร้อยละ 22.8 เช่น ราคาเฉลี่ยของเครื่องพิมพ์อยู่ที่ 234 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาเครื่องพิมพ์สูงขึ้นถึง 25 เหรียญสหรัฐ ต้นทุนที่สูงขึ้นของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อลดลง 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การสูญเสียอำนาจในการซื้อดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปตราบที่ภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นยังคงมีผลบังคับใช้ แม้จะคำนึงถึงผลกำไรของผู้ผลิตและรายได้จากภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว การสูญเสียของผู้บริโภคก็ยังสูงมากจนทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้ถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้แบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
6.จอมอนิเตอร์
ภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ของจอมอนิเตอร์ในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 50.7 ปัจจุบันสัดส่วน 2 ใน 3 การนำเข้าจอมอนิเตอร์ของสหรัฐฯมาจากจีน ดังนั้นภาษีที่เพิ่มขึ้นจะตกอยู่ที่สินค้าเหล่านี้ การนำเข้าจอมอนิเตอร์จากจีนมายังสหรัฐฯจะลดลงร้อยละ 80 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 44.3 ในขณะที่การผลิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะป้องกันการขึ้นราคาสำหรับผู้บริโภค ราคาจอมอนิเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.2 ซึ่งราคาจอมอนิเตอร์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 349 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสูงขึ้นจอละ 109 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่ผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อจำนวนมากและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ของจอมอนิเตอร์ในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 50.7 ปัจจุบันสัดส่วน 2 ใน 3 การนำเข้าจอมอนิเตอร์ของสหรัฐฯมาจากจีน ดังนั้นภาษีที่เพิ่มขึ้นจะตกอยู่ที่สินค้าเหล่านี้ การนำเข้าจอมอนิเตอร์จากจีนมายังสหรัฐฯจะลดลงร้อยละ 80 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 44.3 ในขณะที่การผลิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะป้องกันการขึ้นราคาสำหรับผู้บริโภค ราคาจอมอนิเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.2 ซึ่งราคาจอมอนิเตอร์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 349 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสูงขึ้นจอละ 109 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่ผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อจำนวนมากและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
7.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
อัตราภาษีนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 11.3 สหรัฐฯนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจากจีนคิดเป็นเพียงร้อยละ2 ของการนำเข้าทั้งหมด ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้จะตกอยู่ที่คอมพิวเตอร์ที่มาจากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น โดยส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก
โดยรวมแล้ว ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯจะลดการซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะลงถึงร้อยละ 14 จากการตรวจสอบราคาของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 11 โมเดล พบว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,193 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสูงขึ้นเครื่องละ 74 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อัตราภาษีนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 11.3 สหรัฐฯนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจากจีนคิดเป็นเพียงร้อยละ2 ของการนำเข้าทั้งหมด ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้จะตกอยู่ที่คอมพิวเตอร์ที่มาจากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น โดยส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก
โดยรวมแล้ว ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯจะลดการซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะลงถึงร้อยละ 14 จากการตรวจสอบราคาของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 11 โมเดล พบว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,193 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสูงขึ้นเครื่องละ 74 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
8. โทรทัศน์
อัตราภาษีนำเข้าโทรทัศน์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.6 โดยภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 17.5 สหรัฐฯนำเข้าโทรทัศน์จากจีนเพียงเล็กน้อย ดังนั้นภาษีใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้อาจจะถูกเรียกเก็บจากการนำเข้าโทรทัศน์จากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับโทรทัศน์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 89.7 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 15.7 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตเพียงร้อยละ 1.5
ภาษีนำเข้าจะมีผลกระทบทางลบต่อชาวอเมริกันที่ต้องซื้อโทรทัศน์ในราคาที่สูงขึ้น ราคาโทรทัศน์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากการตรวจสอบราคาปัจจุบันของโทรทัศน์จากหลายช่องทางพบว่าราคาโทรทัศน์เฉลี่ยอยู่ที่เครื่องละ 528 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาโทรทัศน์สูงขึ้นเครื่องละ 48 เหรียญสหรัฐ ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อโทรทัศน์ลงร้อยละ 16.3
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่การสูญเสียอำนาจในการซื้อของผู้บริโภคนั้นสูงมาก ซึ่งทำให้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 171 ล้านเหรียญสหรัฐ
อัตราภาษีนำเข้าโทรทัศน์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.6 โดยภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 17.5 สหรัฐฯนำเข้าโทรทัศน์จากจีนเพียงเล็กน้อย ดังนั้นภาษีใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้อาจจะถูกเรียกเก็บจากการนำเข้าโทรทัศน์จากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับโทรทัศน์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 89.7 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 15.7 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตเพียงร้อยละ 1.5
ภาษีนำเข้าจะมีผลกระทบทางลบต่อชาวอเมริกันที่ต้องซื้อโทรทัศน์ในราคาที่สูงขึ้น ราคาโทรทัศน์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากการตรวจสอบราคาปัจจุบันของโทรทัศน์จากหลายช่องทางพบว่าราคาโทรทัศน์เฉลี่ยอยู่ที่เครื่องละ 528 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาโทรทัศน์สูงขึ้นเครื่องละ 48 เหรียญสหรัฐ ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อโทรทัศน์ลงร้อยละ 16.3
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่การสูญเสียอำนาจในการซื้อของผู้บริโภคนั้นสูงมาก ซึ่งทำให้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 171 ล้านเหรียญสหรัฐ
9. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
อัตราภาษีนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 50.5 สหรัฐฯนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมากกว่าครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่จะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ การนำเข้าแบตเตอรี่จากจีนจะลงร้อยละ 97.7 และการนำเข้าทั้งหมดจะลดลงร้อยละ 54.4 ผู้ผลิตในสหรัฐฯจะเพิ่มการผลิตที่ร้อยละ 10
ราคาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อลงร้อยละ 25 อัตราภาษีนำเข้าใหม่จะทำให้ราคาแบตเตอรี่สูงขึ้นถึง 29 เหรียญสหรัฐ เป็นการบังคับให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อแบตเตอรี่ต่อไป
อัตราภาษีนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 50.5 สหรัฐฯนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมากกว่าครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่จะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ การนำเข้าแบตเตอรี่จากจีนจะลงร้อยละ 97.7 และการนำเข้าทั้งหมดจะลดลงร้อยละ 54.4 ผู้ผลิตในสหรัฐฯจะเพิ่มการผลิตที่ร้อยละ 10
ราคาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อลงร้อยละ 25 อัตราภาษีนำเข้าใหม่จะทำให้ราคาแบตเตอรี่สูงขึ้นถึง 29 เหรียญสหรัฐ เป็นการบังคับให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อแบตเตอรี่ต่อไป
10.ลำโพงและหูฟัง
การเก็บภาษีนำเข้าใหม่จะสร้างผลกระทบทางลบต่อผู้บริโภค อัตราภาษีนำเข้าลำโพงและหูฟังโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 39.4 สหรัฐฯนำเข้าลำโพงและหูฟังจำนวนครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีใหม่จะถูกเรียกเก็บจากสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับลำโพงและหูฟังที่นำเข้าจากจีนนั้นจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.5 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 36.8 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตร้อยละ 11.1
อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคด้วยราคาลำโพงและหูฟังที่แพงขึ้น โดยราคาของลำโพงและหูฟังจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 ราคาของเฉลี่ยของลำโพงอยู่ที่ 270 เหรียญสหรัฐ และ ราคาเฉลี่ยของหูฟังอยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐ การกำหนดอัตราภาษีใหม่จะทำให้ราคาลำโพงเพิ่มขึ้น 29 เหรียญสหรัฐ และราคาหูฟังเพิ่มขึ้นอีก 2 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ผู้บริโภคจะลดปริมาณการซื้อลงร้อยละ 22.7
การเก็บภาษีนำเข้าใหม่จะสร้างผลกระทบทางลบต่อผู้บริโภค อัตราภาษีนำเข้าลำโพงและหูฟังโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 39.4 สหรัฐฯนำเข้าลำโพงและหูฟังจำนวนครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีใหม่จะถูกเรียกเก็บจากสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับลำโพงและหูฟังที่นำเข้าจากจีนนั้นจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.5 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 36.8 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตร้อยละ 11.1
อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคด้วยราคาลำโพงและหูฟังที่แพงขึ้น โดยราคาของลำโพงและหูฟังจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 ราคาของเฉลี่ยของลำโพงอยู่ที่ 270 เหรียญสหรัฐ และ ราคาเฉลี่ยของหูฟังอยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐ การกำหนดอัตราภาษีใหม่จะทำให้ราคาลำโพงเพิ่มขึ้น 29 เหรียญสหรัฐ และราคาหูฟังเพิ่มขึ้นอีก 2 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ผู้บริโภคจะลดปริมาณการซื้อลงร้อยละ 22.7
ผลกระทบโดยประมาณต่อผู้บริโภคจากอัตราภาษีที่เสนอ: สถานการณ์ 20%/120%
ผลกระทบของการเพิ่มภาษีศุลกากรในกรณี 20%/120% นี้จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก หากพิจารณาจากระดับและรูปแบบการค้าในปัจจุบัน ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของเครื่องเล่นวิดีโอเกมซึ่งปัจจุบันปลอดภาษี จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 107 ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของแล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรใดๆ จะอยู่ที่เกือบร้อยละ 100 ภาษีศุลกากรของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไม่ใช้ไฟฟ้าและจอมอนิเตอร์ ซึ่งปัจจุบันต้องเสียภาษีศุลกากรต่ำ จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 ถึงร้อยละ 90
สรุป
อัตราภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลต่อผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการศึกษาของ TPW พบว่าภาษีนำเข้าจะสูงขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าจากผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่จีนเป็นผู้ส่งออกหลักมายังสหรัฐฯ และไม่เพียงแต่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยสำหรับสินค้าจากทุกประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างภาระหนักให้กับผู้บริโภคชาวอเมริกันอีกด้วย โดยจะเป็นการลดอำนาจการซื้อของผู้บริโภคลง ระหว่าง 9 หมื่นล้านถึง 1.43 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ถึงแม้จะมีแหล่งนำเข้าอื่นๆ และฐานการผลิตใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก็ตาม อัตราภาษีศุลกากรที่จะถูกเก็บนี้จะส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน และวิดีโอเกมเพิ่มขึ้นอย่างมาก การขึ้นราคาดังกล่าวจะลดยอดการซื้อโดยรวมลงและส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระภาษีเหล่านี้
ผลกระทบของการเพิ่มภาษีศุลกากรในกรณี 20%/120% นี้จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก หากพิจารณาจากระดับและรูปแบบการค้าในปัจจุบัน ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของเครื่องเล่นวิดีโอเกมซึ่งปัจจุบันปลอดภาษี จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 107 ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของแล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรใดๆ จะอยู่ที่เกือบร้อยละ 100 ภาษีศุลกากรของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไม่ใช้ไฟฟ้าและจอมอนิเตอร์ ซึ่งปัจจุบันต้องเสียภาษีศุลกากรต่ำ จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 ถึงร้อยละ 90
สรุป
อัตราภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลต่อผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการศึกษาของ TPW พบว่าภาษีนำเข้าจะสูงขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าจากผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่จีนเป็นผู้ส่งออกหลักมายังสหรัฐฯ และไม่เพียงแต่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยสำหรับสินค้าจากทุกประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างภาระหนักให้กับผู้บริโภคชาวอเมริกันอีกด้วย โดยจะเป็นการลดอำนาจการซื้อของผู้บริโภคลง ระหว่าง 9 หมื่นล้านถึง 1.43 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ถึงแม้จะมีแหล่งนำเข้าอื่นๆ และฐานการผลิตใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก็ตาม อัตราภาษีศุลกากรที่จะถูกเก็บนี้จะส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน และวิดีโอเกมเพิ่มขึ้นอย่างมาก การขึ้นราคาดังกล่าวจะลดยอดการซื้อโดยรวมลงและส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระภาษีเหล่านี้
ข้อมูลอ้างอิง: Consumer Technology Association (CTA)