งานแสดงสินค้า China Import and Export Fair (Canton Fair) ครั้งที่ 137 มหกรรมจัดแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกยิ่งใหญ่ระดับโลก

งานแสดงสินค้า China Import and Export Fair (Canton Fair) ครั้งที่ 137 มหกรรมจัดแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกยิ่งใหญ่ระดับโลก ได้เปิดฉากแล้วอย่างเป็นทางการ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์จัดเเสดงสินค้า The China Import and Export Fair Complex

โดยงานCanton Fair ฯ ครั้งที่ 137 จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก 3 Phase ด้วยกัน ได้แก่ “Advanced Manufacturing” (การผลิตล้ำสมัย) “Quality Home Life” (คุณภาพชีวิตในบ้าน) และ “Better Life” (ชีวิตที่ดีกว่าเดิม) โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 Phase ตามประเภทสินค้า ดังนี้

Phaseที่ 1 (15-19 เม.ย. 2568) – เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม เครื่องจักร, ยานยนต์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า

Phaseที่ 2 (23-27 เม.ย. 2025) – วัสดุก่อสร้างและของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์, วัสดุก่อสร้าง, ของตกแต่งบ้าน, เครื่องครัว, ของขวัญ

Phaseที่ 3 (1-5 พ.ค. 2025) – สินค้าอุปโภคบริโภคและแฟชั่น เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องประดับ, ของเล่น, อาหาร, สินค้าสัตว์เลี้ยง

งานดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.55 ล้านตารางเมตร และมีจำนวนคูหาประมาณ 74,000 คูหา พร้อมต้อนรับผู้แสดงสินค้าประมาณ 31,000 ราย นอกจากนี้ จำนวนผู้แสดงสินค้าใน National Pavilion ในครั้งนี้มีจำนวนมากกว่า 30,000 รายเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 900 รายจากงานครั้งก่อนหน้า

สำหรับงาน Canton Fair Phase 1 ปี 2568 นี้ ตามรายงานข่าวของ chinanews.com ระบุว่า ณ วันที่ 13 เมษายน มีผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 200,000 ราย จาก 215 ประเทศและภูมิภาค ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าแล้ว โดยในวันเปิดงาน Canton Fair Phase 1 ภายใต้ธีม “Advanced Manufacturing”  มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงถึง 11,304 ราย ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำราว 3,700 แห่ง งาน Canton Fair Phase 1 ครั้งนี้ มีผู้ประกอบการจากประเทศไทยหลายรายเข้าร่วมจัดแสดง โดยมีสินค้าประเภทเครื่องจักร วัสดุก่อสร้างและของใช้ในบ้าน ซึ่งได้รับความสนใจจาก Buyer ที่มีศักยภาพสูงจากทั่วโลกจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1 ราย คือบริษัท POLAWAT ENGINE CO., LTD.  โดยผู้ประกอบการบริษัทดังกล่าวระบุว่า ภายในงานมี Buyer จากหลายประเทศให้ความสนใจและสอบถามรายละเอียดสินค้า รวมถึงได้มีการเจรจาการค้ากับ Buyer จากประเทศโปแลนด์และเยเมน คาดว่าจะมีมูลค่าสั่งซื้อคาดการณ์ภายใน 1 ปี 350,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 11,625,950 บาท) นอกจากนี้ ภายในงานมีการสัมภาษณ์หนึ่งในผู้ประกอบการไทยที่มาจัดแสดงสินค้าในครั้งนี้ โดยระบุว่า งานแคนตันแฟร์ปีนี้มีผู้เข้าชมและสอบถามสินค้าที่นำมาจัดแสดงเพิ่มขึ้นมาก เพียงวันแรกของการจัดงาน บริษัทได้เจรจาการค้าสำเร็จ 3 รายการ ทั้งจากลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าที่เพิ่มออร์เดอร์ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความคิดเห็นว่าหัวใจสำคัญที่ทำให้เราดึงดูดลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องคือ จะต้องนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดให้ลูกค้าได้ประจักษ์

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาผู้เข้าร่วมงานจากประเทศต่างๆ มีจำนวนคูหามากขึ้นทุกปี เช่นในงานครั้งนี้ จำนวนผู้ประกอบการจากหลายประเทศนำสินค้ามาจัดแสดงมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงานจำนวนน้อย ทำให้ยากที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าไทยได้ หากมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวนมาก จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าไทยได้มากขึ้น นอกจากนี้ ในงานมี Buyer คุณภาพสูงจำนวนมากจากทั่วโลก แม้ว่าผู้ประกอบการไทยอาจเผชิญกับการแข่งขันสูงที่สินค้าจีนมีราคาถูกกว่า แต่ยังมีศักยภาพในการส่งออกให้กับผู้นำเข้าจากหลายประเทศ เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้และยุโรป เนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้ เชื่อมั่นในมาตรฐานคุณภาพสินค้าไทย ส่งผลให้สินค้าไทยที่มาจัดแสดงได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าหลายประเทศ แสดงให้เห็นว่าสินค้าของไทยมีศักยภาพในการขยายตลาดอย่างมาก

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

งานแสดงสินค้า China Import and Export Fair (Canton Fair) เป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและสำคัญที่สุดของจีน ซึ่งในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงานมาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะได้พบปะคู่ค้า ค้นหาสินค้าใหม่ และเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าหลากหลายประเทศได้โดยตรง

ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานครั้งนี้ ในการศึกษาดูงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับให้กับสินค้าตนเอง เนื่องจากงานนี้จะมีการนำเสนอไอเดียและแนวคิดโนโลยีใหม่ๆ อีกทั้ง การเข้าร่วมจัดแสดงในงาน Canton Fair เป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เจอคู่ค้าจากทั่วโลก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าและดึงดูดคู่ค้าจากทั่วโลก  โดยการพัฒนาสินค้าโดยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ รักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า มีบริการหลังการขาย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยที่ยังไม่เคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับงานแสดงสินค้าหรือสมัครโครงการ SMEs Proactive ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สคต. ณ เมืองกวางโจว thaitcguangzhou@ditp.go.th

————————————-

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว

แหล่งที่มาข้อมูล

https://mp.weixin.qq.com/s/zarX1cO8gevHmYHLC6ISPw

https://static.nfnews.com/content/202504/16/c11193286.html?from=weChatMessage&colID=null&appversion=12330&firstColID=41600&enterColumnId=0